ก่อนต้นไม้จะตายให้รีบตัดกาฝากทิ้ง
อนาคตของครอบครัว เริ่มต้นที่การสมัครกิฟฟารีน
หัวอกพ่อแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วงลูกๆ อยากให้มีอนาคตที่ดี มีอาชีพการงานที่มั่นคง มีหลาน มีเหลน สืบสายโลหิตต่อไป
พ่อแม่ส่วนใหญ่พยายามให้การศึกษากับลูกอย่างดีที่สุด ด้วยความหวังว่าความรู้จะทำให้ลูก มีอาชีพการงานที่มั่นคง
บางครอบครัวก็ให้ลูกเรียนรู้อุตสาหกรรมในครอบครัว ตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ เพราะหวังให้สืบต่อเป็นอาชีพต่อไป
ผมเคยคุยกับเจ้าของร้านข้าวหมูแดงหมูกรอบอันดับ 1. ของจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นร้านแรกของจังหวัด เปิดขายมานานกว่า 70 ปี
เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ที่ร้านขายได้เดือนละแสนกว่าบาท แต่ความลำบากอยู่ที่การย่างหมูกรอบ ตั้งแต่เริ่มลงมือทำจนถึงเวลาเสร็จกินเวลานาน 3 ชั่วโมง และต้องอยู่หน้าเตาถ่านร้อนๆ
รุ่นลูกก็ยังสนใจรับช่วงต่อ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะสมัยเด็กๆ เคยลำบากมาด้วยกัน ซึ่งสมัยก่อนนั้นต้องขายด้วยรถเข็น
รุ่นลูกมีการเปิดร้านสาขาออกไป และขายดีเหมือนกัน เนื่องจากได้ทำเลร้านดีใกล้ๆ ร้านเดิมนั่นเอง
พอมาถึงรุ่นหลานกลับไม่ชอบ หลานบอกว่าไม่เท่ อยากแต่งตัวโก้โก้ไปทำงานออฟฟิศ รับเงินเดือน 9 พันกว่าบาทก็เอา พูดถึงตรงนี้เถ้าแก่ก็หัวเราะและบอกว่า "เงินเดือนละแสนมันไม่เอา มันอยากโก้ เลยเอาเงินเดือนเก้าพันกว่าบาท อยากขับรถโก้โก้ แต่งตัวผูกเนกไทไปทำงาน มันคิดยังไงของมัน ผมงงจริงๆ มันคิดได้ยังไง ผมผิดหรือมันโง่"
ผมยังมีอีกตัวอย่าง ร้านข้าวหมูแดงชื่อดังมาก ริมคลองประปา ใกล้หมู่บ้านชลนิเวศน์ บางซื่อ กรุงเทพ เจ้าของร้านมีลูกหลายคน
ลูกชายคนหนึ่งแยกตัวไปเช่าตึกแถวเปิดร้านเอง ในซอยใกล้สามแยกเตาปูน เขตบางซื่อ ทำอาหารเหมือนร้านต้นตำรับทุกอย่าง แต่ร้านกลับไปไม่รอด
ผู้ที่เป็นพ่อแม่ทุกคน สามารถสร้างอาชีพสำรองให้กับลูกทุกคนได้ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน
ยิ่งครอบครัวไหนเริ่มใช้เร็ว ความมั่นคงยิ่งมากขึ้น เพราะลูกๆ จะได้รู้จักผลิตภัณฑ์
พอลูกอายุ 15 ปีเขาสามารถสมัครเป็นสมาชิกกิฟฟารีน และบอกต่อเพื่อสร้างธุรกิจของตัวเองได้ ยิ่งเวลานานขึ้นธุรกิจของเขาก็จะขยายตัวตามไปด้วย
ในสมัยนี้การทำธุรกิจกิฟฟารีน สามารถทำบนโลกออนไลน์ ลูกสาวเพื่อนของผมเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 12-13 ปี ยังรู้จักขายของบนอินสตาร์แกรมได้เงินครั้งแรก 6,000 บาท เด็กดีใจมาก แต่คุณพ่อคุณแม่บอกว่า 'งงมาก' พ่อถึงกับพูดว่า"มันทำยังไงของมัน"
ถ้าครอบครัวกิฟฟารีนที่มีลูกเพียงคนเดียวก็สบายหน่อย เพราะลูกสามารถรับผลประโยชน์ต่อจากบิดามารดาได้ แต่หากมีลูกหลายคน ทุกคนควรมีความรู้ในการบอกต่อ เพื่อสร้างธุรกิจกิฟฟารีนเป็นของแต่ละคน
ทำไมต้องกิฟฟารีน
คำตอบคือ ความมั่นคงของบริษัท ที่เปิดทำการมาตั้งแต่ 17 มีค 2539
บริษัท กิฟฟารีน เป็นธุรกิจขายตรง สายพันธุ์ไทยอันดับ 1 ของประเทศไทย มีโรงงานของตัวเองมูลค่า 800 ร้อยล้านบาท มีมาตรฐานการผลิตสูงเป็นที่ยอมรับทั่วโลก มีกำไรต่อเนื่องทุกปี มีการจ่ายเงินให้สมาชิกสูงสุด มีการเสียภาษีถูกต้อง และจ่ายภาษีสูงสุดในธุรกิจขายตรงทั้งหมดที่อยู่ในเมืองไทย สามารถตรวจสอบได้จากกระทรวงพาณิชย์
กิฟฟารีนเป็นบริษัทเดียว ที่ทุกปีมีการเปิดเผยตัวเลขยอดรวมทั้งหมด ที่จ่ายผลประโยชน์ให้กับสมาชิก
ธุรกิจกิฟฟารีนเริ่มจากภายในบ้าน เพื่ออนาคตลูกหลานทุกคนในครอบครัว
พ่อแม่ควรช่วยกันระวังอย่าให้ลูกหลานของท่าน เหมือนถูกทิ้งอยู่ในโลกนี้คนเดียว ถูกทิ้งอยู่ในโลกที่โหดร้าย
เราต้องสร้างเกราะให้เขาสามารถเผชิญหน้ากับมันได้อย่างเข้มแข็ง
ต่อให้วันหน้ามีลมพายุ พายุที่แรงและน่ากลัว มันอาจทําให้เขาต้องเจ็บปวด ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าพวกเขามีรายได้จากกิฟฟารีนคอยประคอง พวกเขาก็จะยังมีความหวัง มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป
เพราะฉะนั้นพ่อแม่ทุกคนต้องรีบลุกขึ้นมา พ่อแม่ต้องเข้มแข็ง และนำพาทุกคนในครอบครัว ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข
กิฟฟารีนให้โอกาสนี้กับเราแล้ว ผลิตภัณฑ์ห้างร้านทั่วไปมีแต่ดึงเงินออกจากกระเป๋า แต่กิฟฟารีนให้โอกาสเติมเงินกลับเข้ามาในกระเป๋า
** หัวหน้าครอบครัว ที่เป็นสมาชิกกิฟฟารีน ซื้อของใช้ภายในบ้าน แล้วบอกต่อ โดยชวนหัวหน้าครอบครัวอื่นอีก 5 ถึง 15 คน ย้ายที่ซื้อของจากห้าง มาที่กิฟฟารีน และสอนให้ทุกคนทำแบบเดียวกัน เกิดเป็นธุรกิจกิฟฟารีน ทุกคนจะมีรายได้จากกิจการของตน มาเลี้ยงดูครอบครัวตลอดไป **
ขอเชิญท่านมาร่วมกันกับผม ช่วยกันชวนคน และช่วยกันบอกต่อ ช่วยกันเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของใช้ในบ้าน ให้เป็นกิฟฟารีนให้มากที่สุด เพื่อรับผลประโยชน์ และรับเงินสูงที่สุด